เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 สั่งการให้ พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 237 อ.ท่าอุเทน ประสานงานร่วมกับ ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.นที สิริวราวัชร์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน พร้อมด้วยทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี
แถลงการณ์ตรวจยึดรถจักยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพใหม่เอี่ยม และรถจักยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเดียวกัน สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รวมจำนวน 2 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นรถ จยย.ที่ถูกโจรกรรม มาเพื่อเตรียมส่งขายข้ามโขง โดยจับกุมที่บริเวณบ้านดงเย็น หมู่ 10 และ บ้านนาข่าท่า หมู่ 8 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด และการการะทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ปฏิบัติหน้าตรวจเข้มในการสกัดกั้นปราบปราม เพื่อจับกุมขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ร่วมสนธิกำลังตั้งจุดสกัด อยู่ที่บริเวณถนนเส้นทางระหว่าง บ้านดงเย็น – บ้านโคกสว่าง หมู่ที่ 8 ต.พะทาย ตามปกติ
กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.พบรถจักยานยนต์คันหนึ่ง วิ่งมาจากปากทางบ้านนาพะชัย ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เข้าหมู่บ้านโคกสว่างมุ่งหน้าไปบ้านดงเย็น เส้นทางไปริมฝั่งแม่น้ำโขง จึงส่งสัญญาณขอตรวจค้น มีวัยรุ่น 2 คนอายุ 14 ปี เป็นผู้ขับขี่ และอายุ 13 ปี เป็นผู้ซ้อนท้าย
สอบถามขอดูหลักฐานในการครอบครองรถ เพราะมีสภาพใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งออกมาจากร้าน วัยรุ่นทั้งสองไม่สามารถแสดงหลักฐานดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่ารถ จยย. อาจจะถูกโจรกรรมมาจากที่อื่น เบื้องต้นยึดไว้ตรวจสอบหาตัวเจ้าของ ก่อนจะนำเด็กทั้งคู่ไปสอบสวนเพิ่มเติม
วัยรุ่นทั้งสองคนให้การว่าได้รับการว่าจ้างเป็นเงินคนละ 300 บาท จากหญิงสาวไม่ทราบชื่อคนหนึ่ง ในหมู่บ้านใกล้ริมฝั่งแม่น้ำโขง ให้ขับรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ในบริเวณบ้านหญิงสาวคนนั้น เจ้าหน้าที่จึงให้พาไปที่บ้านหลังดังกล่าว ก็ต้องตกตะลึงเพราะพบรถจักรยานยนต์รุ่นเดียวกันอีกคันจอดอยู่ ตรวจสอบไม่พบเอกสารใดๆ จึงนำรถทั้งสองคันมาเก็บรักษาไว้ที่ กองร้อย ตชด.237 ทำบันทึกเพื่อให้ผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว นำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับรถคืน
ด.ช.เอ(นามสมมุติ)เล่าว่าหญิงสาวต้องสงสัย ติดต่อว่าจ้างให้ตนและ ด.ช.บี(นามสมมุติ) ไปขับรถ จยย.คันที่จอดอยู่ในบ้านจากปากทางเข้าวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อ.พังโคน จ.สกลนคร ซึ่งมีระยะทางกว่า 100 กม. โดยหญิงดังกล่าวขับรถยนต์ไปส่งแล้วชี้รถ จยย.คันที่ตนต้องขับ หลังจากนั้นหญิงคนเดียวกันก็พาตนทั้งสองไปเอารถ จยย.อีกคัน ระหว่างทางเจอด่านเจ้าหน้าที่สกัดตรวจค้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นขบวนการค้ารถข้ามชาติ ซึ่งตระเวนหาดาวน์รถ จยย.ในจังหวัดใกล้เคียง จากนั้นจะส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนเพื่อขยายผลหากลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อ
ขอบพระคุณที่มาข่าวจาก
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล สำนักข่าวทีนิวส์ นครพนม
