Ads 468x60px

ท่าอุเทนเมืองธรรมมะ พระธาตุสูงงาม แม่น้ำสองสี ไดโนเสาร์ล้านปี ประเพณีไทญ้อ

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

หนังจี่หนังควาย บ้านเวินพระบาท



หนังจี่หนังควาย บ้านเวินพระบาท
ช่วงนี้สภาพอากาศในหลายพื้นที่ภาคอีสานเริ่มหนาวเย็น โดยอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจวัดของสถานีอุตุนิยมวิทยาจ.นครพนม พบในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีอุณหภูมิต่ำสุดถึง 18 องศา ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านหลายพื้นที่ประสบภัยหนาว ทำให้ชาวบ้านบางชุมชนต้องหันมาก่อไฟผิงคลายหนาว ไม่เพียงส่งผลดีต่อธุรกิจจำหน่ายเสื้อผ้ากันหนาว และผ้าห่มกันหนาวกลับมาคึกคัก แต่ยังเกิดผลดีต่ออาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน คือการ ทำหนังควายเส้น หรือหนังควายเค็มขาย เนื่องจากชาวอีสานส่วนใหญ่ในช่วงฤดูหนาวขณะก่อไฟผิง ก็จะนิยมนำหนังควายเส้นตากแห้งมาเผาไฟ แล้วทุบกินกับข้าวเหนียว





โดยชาวอีสานเชื่อว่าการเคี้ยวหนังเค็ม จะกระตุ้นให้ร่างกายอบอุ่น เนื่องจากหนังเค็มจะเคี้ยวยาก นายประนอม ชนะเคน ชาวบ้านในหมู่ 9 บ้านน้อยชลประทาน ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กล่าวว่า การทำหนังความเส้นเป็นต้นตำรับหนึ่งเดียวของจ.นครพนม ที่ยึดอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำหนังควายเค็มขายสร้างรายได้มานานกว่า 20 ปี โดยเริ่มจากการทำตามแบบฉบับภูมิปัญญาชาวบ้านลองผิดลองถูก เพื่อขายภายในหมู่บ้าน จนกระทั่งมีการพัฒนาไปสู่การผลิตที่มาตรฐาน กลายเป็นอาชีพหลักส่งออกขายไปทั่วประเทศ จนเป็นที่รู้จักของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่มาสั่งซื้อจองล่วงหน้าจนไม่พอขาย






โดยเฉพาะช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ถือเป็นเมนูเด็ดสำหรับชาวอีสาน ที่ชอบนำไปเผารับประทาน ในช่วงก่อไฟผิงคลายหนาว ทำให้มีออเดอร์สั่งซื้อจนผลิตไม่ทัน มีรายได้เดือนละหลายแสนบาท เนื่องจากช่วงฤดูหนาวไม่เพียง แต่จะเป็นฤดูที่ชาวบ้านนิยมซื้อไปรับประทาน แต่ยังเหมาะแก่ขั้นตอนการผลิต มีแดดเพียงพอในการตากแห้ง ไม่ชื้น






นายประนอม กล่าวต่อว่า อาชีพทำหนังควายเส้นหรือหนังควายเค็ม นั้นเริ่มจากยึดอาชีพตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ชาวอีสานนิยมทำมาแต่ในอดีต เนื่องจากหนังควายเส้นหรือหนังควายเค็ม ถือเป็นอาหารที่นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นวิธีการถนอมอาหารแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยจะนำหนังควายมาแปรรูปทำเป็นเส้น กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ก่อนนำไปหมักน้ำเกลือและผสมรำ เพื่อลดกลิ่นเหม็นคาว ก่อนนำไปตากแห้งหรืออบไฟให้แห้ง จากนั้น ก็จะนำมาสับเป็นเส้นที่ได้ความยาวตามขนาด เพื่อรอส่งออกขาย ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารหนังควาย ที่สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี ไม่มีเน่าเสีย อีกทั้งยังปลอดสารเจือปน




วิธีการรับประทานก็จะนำไปเผาไฟให้ไหม้พอประมาณ ก่อนนำมาทุบเอาคราบไหม้ออก ก็สามารถนำไปรับประทานได้ และยังสามารถนำไปปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารได้หลายชนิด อาทิ ยำหนังเค็ม ต้มซุปหนังเค็ม หรือนำไปแกง แล้วแต่ความชอบ ปัจจุบันตนได้รับซื้อหนังเค็มมาจากโรงชำแหละทั่วประเทศ ในราคาประมาณกิโลกรัมละ 60-80 บาท เพื่อมาสต็อกให้เพียงพอต่อการผลิต ซึ่งเมื่อผลิตนำไปส่งขายจะสามารถให้กำไรประมาณเกือบเท่าตัว โดยจะขายในราคามัดละ 10-15 บาท ขายส่ง 12 มัด 100 บาท 1 มัด จะมีหนังเค็มปริมาณ 2 เส้น ความยาวเส้นละประมาณ 20 เซนติเมตร




ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าขายส่ง มาสั่งจองไว้ล่วงหน้าจนไม่พอขาย เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่มีใครทำ สร้างรายได้ให้ครอบครัววันละ 5,000-10,000 บาท อย่างไรก็ตาม ในอนาคตสิ่งที่กังวลมากคือ เรื่องของวัตถุดิบหนังควาย เพราะปัจจุบันการเลี้ยง และปริมาณการชำแหละน้อย ทำให้หาซื้อหนังเค็มยาก ไม่เพียงพอต่อการผลิต ต้องสั่งซื้อทั่วประเทศมาสต็อกไว้ ส่วนหนังวัวไม่สามารถทำได้ เพราะมีขนาดบาง ไม่เหมาะต่อการทำหนังเค็ม สำหรับหนังเค็มที่ผลิตออกขายจะมีจุดเด่นคือ มีรสชาติอร่อย นุ่มไม่แข็ง สามารถเผาไฟแรงได้ ไม่ไหม้ และสามารถนำไปเผากับเตาแก๊สได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไหม้ เพราะจะมีการผลิตเส้นขนาดใหญ่ เผื่อลูกค้าที่ไม่ถนัดในการเผา ที่สำคัญยังมีความสะอาดปลอดภัย ไร้สารเจือปน เพราะส่วนผสมในการผลิตมีเพียงเกลือและรำอ่อนเท่านั้น



_____________________________


 ที่มา มติชนออนไลน์
เรียบเรียง ไทท่าอุเทน
_____________________________