ชาวตำบลบ้านกลาง จ.นครพนมร่วม 500 คนแห่ลงแขกจับปลาในหนองน้ำสาธารณะคึกคักท่ามกลางแดดร้อนจัด ทึ่ง! เก็บเงินค่าตั๋วได้กว่า 1 แสน เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2558 ได้มีชาวบ้านหลายร้อยคน นำอุปกรณ์หาปลาหลากชนิดมาลงแขกจับปลา หรือชาวอีสานเรียก “ผ่าปลา” ในหนองน้ำสาธารณะบึงบัวและหนองอ้อ บ.กลางน้อย หมู่ 7 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม ริมถนนหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม-ธาตุพนม กันอย่างคึกคัก หลังจากในช่วงฤดูแล้งระดับน้ำลด
โดยเก็บเงินคนหาปลาได้มากกว่า 100,000 บาท โดยเงินที่จัดเก็บได้ดังกล่าว คณะกรรมการหมู่บ้านจะนำไปซื้อพันธุ์ปลามาปล่อย และสร้างเมรุวัดในหมู่บ้าน นายวีระศักดิ์ หลงมา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านกลางน้อย หมู่ 7 กล่าวว่า ในช่วงหน้าแล้งของทุกปี หลังจัดงานบุญผะเหวดเสร็จ คณะกรรมการหมู่บ้านแห่งนี้ จะมีมติจัดการลงแขกผ่าปลา เพื่อนำเงินรายได้จากการจำหน่ายบัตรใบละ 100 บาท เพื่อเปิดให้ชาวบ้านและผู้ที่มีอาชีพล่าปลาตามหนองน้ำในหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียง ได้เข้ามาจับปลาในบึงอ้อ และบึงบัว หนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่งริมถนนหลวง ขนาดกว้าง 70 เมตร ยาวร่วม 1,000 เมตร เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาสาธารณะประโยชน์เป็นประจำทุกปี
ผู้ใหญ่บ้าน บ.กลางน้อย กล่าวต่อว่า ผู้ที่มาจับปลาจะต้องนำอุปกรณ์ อาทิ แห จะลุง สะดุ้ง เรือ แพยางนั่งร้าน (ยกเว้นจะลุงซึ่งมีความยาว 10 ศอก) มาจับปลาระยะห่างต่อคน 5-7 เมตร ปรากฏว่าวันแรกที่หนองอ้อ มีผู้มาจับปลา 300-400 ราย เก็บค่าตั๋วได้ 52,000 บาท ส่วนบึงบัวมีผู้แห่มาล่าปลามากถึง 500-600 คน เก็บค่าบัตรได้ 59,000 บาท รวม 2 วันได้เงิน 111,000 บาท ทั้งนี้ จะนำรายได้ส่วนหนึ่งไปซื้อพันธุ์ปลามาปล่อยไว้จับในปีหน้าต่อไป ส่วนที่เหลือจะนำไปสร้างเมรุวัดสุพรรณกมลาวาส ซึ่งยังไม่มีที่เผาศพในหมู่บ้านต่อไป
สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการจับปลา แต่มีข้อแม้ให้ช่วยกันดูแลรักษาแหล่งน้ำของหมู่บ้าน ขณะที่พรานล่าปลาจับได้ปลาน้ำหนักสูงสุดคือปลาจีน หนักถึงตัวละ 8 กิโลกรัม และปลานวลจันทร์ ปลากระโห้ ปลานิล ขนาดตัวละ 1-3 กิโลกรัม แต่ละรายจะมีโชคไม่เหมือนกัน บางรายจับได้ 10-15 กิโลกรัม ขายบริเวณที่จับกิโลกรัมละ 70-100 บาท ชาวบ้านบางรายสามารถจับขายได้เงิน 4,000-5,000 บาทเลยทีเดียว นอกเหนือที่กันไว้บางส่วนเพื่อนำไปปรุงประกอบอาหารลาบ ก้อย ต้ม และเผาปลากินข้างสระกันอย่างคึกคัก