เกษตรกรบ้านท่าดอกแก้ว ปลูกแตงไทยขายเสริมรายได้หน้าแล้งแทนการทำนาปรัง
หลังการเก็บเกี่ยวจะมีการไถกลบตอชังข้าวในนา เพื่อตากดินให้แห้งประมาณ 15 วัน เป็นการฆ่าเชื้อโรคและแมลงในดิน จากนั้นจึงยกร่องแปลงนาเพื่อปลูกแตงไทย ซึ่งลักษณะหลังร่องจะกว้างประมาณ 80เซนติเมตร เว้นระยะห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร จากนั้นก็นำปูนขาวไปว่านให้ทั่วแปลงเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคและปรับสภาพดินให้เหมาะแก่การเจริญเติบโต รวมทั้งใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 บนร่องแปลงปลูกเพื่อเพิ่มแร่ธาตุในดิน จากนั้นก็นำพลาสติกมาคลุมแปลงเมื่อแล้วเสร็จ ก็เจาะรูด้านบนและด้านข้างระยะห่างประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อปลูกแตงไทยและให้น้ำซึมเข้าไปในแปลงยกร่อง เมื่อแล้วเสร็จก็จะสูบน้ำเข้ามาตามร่องแปลง โดยให้ระดับน้ำสูงกว่ารูที่เจาะด้านข้างของพลาสติกเพื่อสร้างความชื้นในดิน ก่อนที่จะหยอดเมล็ดพันธ์ลงหลุม จากนั้นก็รอการเจริญเติบโต
โดยทุกๆอาทิตย์จะมีการสูบน้ำเข้ามาเลี้ยงต้นกล้า เมื่อแตงไทยอายุได้ประมาณ 30 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด เพราะต้นแตงไทยเริ่มออกดอกชุดแรกและเริ่มติดผลอ่อน จะมีการใส่ปุ๋ยหมักอินทรีย์ที่ทางสำนักงานเกษตรอำเภอมาสอนทำร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 จากนั้นจะไปใส่อีกที่ตอนต้นแตงไทยอายุประมาณ 45 วัน และครั้งสุดท้ายจะสังเกตจากขนาดผลของแตงไทยซึ่งจะมีขนาดประมาณ 1-2 กิโลกรัม เพราะเป็นช่วงสร้างเนื้อขยายผล
สำหรับการขายนั้นจะมีทั้งพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ ในราคากิโลกรัมละ 11 บาท ส่วนที่เหลือจากที่พ่อค้าคนกลางมารับซื้อก็จะนำมาวางขาย ตามแนวถนนสายศรีสงคราม – ท่าดอกแก้ว ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อจะได้ทดลองชิมดูก่อนได้ ส่วนราคาขายนั้นจะขายในราคา 4 กิโลกรัม 100 บาท แต่ถ้าซื้อ 1 ลูกจะคิดในราคากิโลกรัมละ 15 บาท
_______________________________________
- ข้อมูลข่าวและที่มา ผู้สื่อข่าว : ทินกร เพชรดี
- ผู้เรียบเรียง : วรัญญา นันตาแก้ว
- แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
_______________________________________