เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม มีหลวงปู่ กิตติพงศ์ กิตติโสภโณ อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดคำสว่าง ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งถือเป็นพระนักพัฒนาและนักอนุรักษ์ป่า ที่ชาวบ้านเคารพศรัทธา พร้อมด้วยนายอนันต์ นิที อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านคำสว่าง หมู่ 2 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม นายจักรพันธ์ ยอยง อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ นำเอกสารหลักฐาน เข้าร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน
เพื่อสะท้อนไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงนำลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาแก๊งโจรลักลอบตัดไม้พะยูงคุกคามข่มขู่พระเจ้าอาวาส เนื่องจากพยายามเข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูงในวัด รวมถึงไม้หวงห้ามที่มีราคาแพงไปขาย
เนื่องจากพื้นที่ป่าของวัด รวมกว่า 150 ไร่ เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญยังเป็นป่าชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ ที่ได้รับพระราชทานให้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์ป่า ตามแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2560
โดยพื้นที่วัดคำสว่างจะมีต้นไม้หวงห้าม และไม้สำคัญขนาดใหญ่ อายุมากกว่า 400-500 ปี จำนวนเกือบ 1,000 ต้น อาทิ ไม้พะยูง ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียน และไม้ขนาดใหญ่อีกหลายชนิด ถือว่าเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์มาแต่อดีต
แต่ปัจจุบันได้รับผลกระทบหนัก ช่วงรอบปีที่ผ่านมา มีแก๊งมอดไม้พะยูงเข้าไปลักลอบตัด รวมแล้วเกือบ 100 ต้น บางต้นมีอายุ 200-300 ปี เพราะเป็นต้นไม้ที่มีราคาแพง ทั้งที่ชาวบ้านพยายามหาทางป้องกันแก้ไข แต่ในช่วงกลางคืนไม่มีคนเฝ้าทำให้ฉวยโอกาสตัด มีเพียงพระเจ้าอาวาสเพียงรูปเดียวที่จำวัดแห่งนี้
ล่าสุดมีการคุกคามข่มขู่ กลั่นแกล้งพระเจ้าอาวาสสารพัด ทั้งมีการงัดกุฏิ ขโมยสิ่งของไปหลายครั้ง เพื่อให้เกรงกลัวหนีออกจากวัด จะได้สะดวกในการลักลอบตัดไม้ ทำให้ทนไม่ไหว หลังมีการแจ้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองหลายครั้ง ออกมาตรวจสอบ ได้แค่ระยะ จากนั้นก็เงียบหายไป แก๊งมอดไม้กลับมาคุกคามอีก เพราะไม่มีการสอบสวนเอาผิด จึงออกมาเรียกร้องหาหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลแก้ไขจริงจัง
ที่มาจาก
matichon
Tnew