สลดจมน้ำดับคู่ สังเวยแม่น้ำโขง

วันที่ 13 มี.ค.61 ร.ต.อ.คงฤทธิ์ พลศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำสูญหายในแม่น้ำโขง บริเวณบ้านหนองหอยท่า ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการจู่โจมใต้น้ำ (มนุษย์กบ) นรข.สน.เรือธาตุพนม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และทีมนักประดาน้ำอรทัย พร้อมแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลังวัดพุทธลีลา ห่างจากตลิ่งประมาณ 100 เมตร เป็นหาดทรายโผล่กลางสันดอน พบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงลุ้นการค้นหาร่างผู้สูญหาย ทราบชื่อต่อมาคือนายภีมพัตร์ แสนพรม วัย 17 ปี นักเรียน กศน.อ.ธาตุพนม ชาวบ้านหนองหอยท่า หมู่ 5 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม และ ด.ญ.เสาวลักษณ์ โฉมเฉลา อายุ 14 ปี ชาว ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม

ทั้งนี้เหตุการณ์สลดดังกล่าว เกิดตั้งแต่เวลา 14.30 น. วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีหญิงและชาย 2 คนดังกล่าว ได้พลัดตกแม่น้ำโขงร่างสูญหาย คาดว่าอาจถูกกระแสน้ำพัดลอยไปไกล จึงจัดเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำงมค้นหานานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ยังไม่พบร่าง 2 หนูน้อย อีกทั้งเป็นเวลามืดค่ำ จึงได้ยุติการค้นหาชั่วคราว

จนกระทั่งเวลา 10.00 น.ของวันนี้ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังโดยใช้เรือ 5-6 ลำ ปู ตระเวนกันค้นหาอีกครั้งในรัศมี 1-2 กิโลเมตร หลังค้นหานาน 1 ชั่วโมงครึ่ง กระทั่งพบศพนายภีมพัตร์ 1 ใน 2 ผู้สูญหาย สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงลายทหาร ลำตัวซีดเซียว โดยพบศพห่างจากจุดสูญหาย 20 เมตร จมดิ่งใต้น้ำระดับลึก 3-4 เมตร

แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นพบว่าตามลำตัวไม่มีบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ส่วนศพของ ด.ญ.เสาวลักษณ์ เจ้าหน้าที่พบศพในเวลาไล่เลี่ยกัน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายภีมพัตร์ ผู้ตาย พร้อม ด.ญ.เสาวลักษณ์ ได้ชักชวนเพื่อนในกลุ่มไปเล่นน้ำคลายร้อนที่บริเวณหาดทรายดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้ตายทั้งคู่ได้เดินไปที่จุดร่องน้ำลึก เกิดพลัดตกหลุม อีกเพื่อนที่ไปด้วยกันราว 4-5 คน ว่ายน้ำไปไม่เป็น จึงจมดิ่งหายต่อหน้าต่อตา จึงร้องตะโกนให้คนมาช่วย พร้อมรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยและค้นหาข้ามคืน กระทั่งพบทั้ง 2 คนดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนไปยัง พ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้หมั่นดูแลบุตรหลาน ในช่วงปิดภาคเรียน หากมีการเล่นน้ำ ควรมีอุปกรณ์ชูชีพ ทุกครั้ง เนื่องจากในช่วงฤดูร้อนของทุกปีถือเป็นช่วงที่บรรดาลูกหลาน เยาวชน ชอบเล่นน้ำ จึงต้องมีการเข้มงวดดูแลต่อเนื่อง ซึ่งทุกปีจากสถิติพบว่ามีปัญหาจมน้ำเสียชีวิตบ่อยครั้ง

ขอบพระคุณที่มาจาก

ข่าว / ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครพนม